วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

IP Address

ปัจจุบันนี้คอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปบนโลกนี้มีมากมายและทุกเครื่องก็สามารถที่จะเชื่อมต่อถึงกันด้วย และถ้าระบบเครือข่ายไม่มี IP Address แล้วละก็ เราจะไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าข้อมูลนี้ส่งมาจากเครื่องไหน และเล่นอยู่ที่ไหน ซึ่งในหลักความเป็นจริงแล้ว ถ้าIP Address ซ้ำกันเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั้นก็จะมีปัญหา เปรียบได้กับเลขที่บ้านซ้ำกัน เมื่อไปรณีย์จ่ายจดหมายก็จะไม่สามารถจ่ายได้ถูกบ้าน ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลที่จะต้องมี IP Address ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์

IP Address คืออะไร
IP Address คือ หมายเลขที่สามารถระบุแยกแยะความแตกต่างของเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครือข่ายต่าง ๆ ที่มีการเชื่อมต่อในเครือข่ายเดียวกัน หรือจะเป็นการเชื่อมต่อนอกเครือข่ายก็ได้เช่นกัน อย่างที่กล่าวมาแล้วในตอนต้นว่า IP Address เปรียบได้ดังเลขที่บ้านในการตั้ง IP Address จะตั้งไม่ให้ซ้ำกันอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าซ้ำกันจะทำให้เกิดความสับสนในการติดต่อสื่อสารภายในเครือข่าย ซึ่งนี่เองเลยมีหน่วยงานที่ออกมากำหนดเรื่องของการตั้งค่า IP Address ขึ้นมา

IP Address
โครงสร้าง IP Address v4
หน่วยงานนี้ คือ องค์การกำหนดหมายเลขอินเทอร์เน็ต (IANA) เป็นผู้ดำเนินการจัดสรร IP Address ทั่วโลก และให้หน่วยงานทะเบียนอินเทอร์เน็ตประจำภูมิภาค (RIR) ทำหน้าที่จัดสรรกลุ่มเลขที่อยู่ IP Address สำหรับ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและหน่วยงานอื่น ๆที่เกี่ยวข้องอีกทีหนึ่ง 

โดยที่เลข IP Address ในปัจจุบันนี้มีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ IPv4 และ IPv6 ซึ่ง IP Address IPv4 นี้ถือกำเนิดมาก่อนเป็นแบบ ตัวเลข 32 บิต ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีใช้งานอยู่แต่เนื่องจากการใช้งานอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันในเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ต้องมีการคิดค้นเลข IP Address ขึ้นมารองรับ นั้นก็คือ IPv6 ใช้ตัวเลข 128 บิต พัฒนาขึ้นใน ค.ศ. 1995 และได้ทำให้เป็นมาตรฐานใน อาร์เอฟซี 2460 เมื่อ ค.ศ. 1998

IP Address
ตัวอย่างการตั้งค่า IP Address
 ที่มา : http://www.เกร็ดความรู้.net/ip-address/

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การสร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML


HTML ย่อมาจากคำว่า "HyperText Markup Language" เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่งของคอมพิวเตอร์ ที่แสดงผลในลักษณะของเว็บเพจ ซึ่งสามารถแสดงผลได้ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าเป็นภาพกราฟิก ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ 
ภาษา HTML เป็นภาษาที่มีลักษณะของโค้ด กล่าวคือ จะเป็นไฟล์ที่เก็บข้อมูลที่เป็นตัวอักษรในมาตรฐานของรหัสแอสกี (ASCII Code) โดยเขียนอยู่ในรูปแบบของเอกสารข้อความ จึงสามารถกำหนดรูปแบบและโครงสร้างได้ง่าย

การสร้างเว็บเพจ

เราสามารถสร้างเว็บเพจได้ 2 ทาง คือ 
  1. TextEditor โดยเราต้องรู้คำสั่งของภาษา HTML แล้วพิมพ์โปรแกรมเข้าไปทางTextEditor เช่น Notepad เป็นต้น 
  2. ตัวช่วยสร้าง โดยใช้โปรแกรมที่มีความสามารถในการสร้างเว็บเพจโดยเราไม่จำเป็นต้องรู้ภาษา HTML เพราะโปรแกรมเหล่านี้จะทำการแปลงให้เราอัตโนมัติ 

ขั้นตอนในการสร้างเว็บเพจ

  1. เปิดโปรแกรม TextEditor แล้วทำการพิมพ์คำสั่ง HTML แล้วเซฟเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .html 
  2. เปิดโปรแกรม WebBrowser เพื่อใช้ในการดูผลลัพธ์ที่ได้จากการเขียนภาษา HTML จากที่ได้เขียนจาก TextEditor 

โครงสร้างภาษา HTML 

การเขียนภาษา HTML นั้นมีส่วนประกอบหลักอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นเนื้อหา และส่วนที่เป็นคำสั่ง ส่วนที่เป็นคำสั่งนั้นจะอยู่ในรูปของ Tag ซึ่งจะเขียนอยู่ในเครื่องหมาย มากกว่า และ น้อยกว่า < > แต่ละ Tag มีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะกล่าวในบทต่อไป 
Tag แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 
  1. แท็กเดี่ยว คือ คำสั่งที่มีคำสั่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถใช้และสิ้นสุดคำสั่งได้ด้วยตัวของมันเอง เช่น 
    ข้อความ.... <br>
    <hr>
    <! - ข้อความ - > 

  1. แท็กคู่ คือ คำสั่งที่ต้องมีส่วนเริ่มต้นและส่วนจุดจบของคำสั่งนั้นๆ โดยแท็กที่เป็นส่วนจบนั้นจะมีเครื่องหมาย slash / ติดเอาไว้ เช่น 
    <html> ส่วนของเนื้อหา ..... </html>
    <center> ข้อความ..... </center>
    <p> ข้อความ.... </p> 

*** ถ้าหากมีการใช้แท็กคู่หลายๆ คำสั่ง เช่น คำสั่งตัวขีดเส้นใต้ <U> .... </U> และตามด้วย คำสั่ง ตัวเอียง <I>....</I> จะต้องปิดคำสั่งตัวเอียงก่อน แล้วจึงจะมาปิดคำสั่งตัวหนา*** 
<I> U> ข้อความ.... </U> </I>

การจัดวางที่เห็นเป็นการจัดวางแบบมาตรฐาน ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ส่วน ซึ่งเวลาเริ่มเขียนภาษาHTML ควรเริ่มจากตรงนี้ก่อนทุกครั้ง 
format.jpg (25175 bytes)



ตัวอย่าง


การจัดรูปแบบเอกสาร


การกำหนดหัวข้อ (Heading) 
คำอธิบาย
ใช้ในการกำหนดขนาดให้กับข้อความที่เป็นหัวข้อเรื่อง ในเอกสารที่มีหัวข้อเป็นปลีกย่อย สามารถแยกเป็นลำดับของหัวเรื่องได้อย่างชัดเจน 
รูปแบบ
<hx> ..... </hx> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Education Technology </title>
</head>
<body>
<h1>Test Heading if x=1</h1>
<h2>Test Heading if x=2 </h2>
<h3> Test Heading if x=3 </h3>
<h4> Test heading if x=4 </h4>
<h5> Test heading if x=5 </h5>
<h6> Test heading if x=6 </h6>
</body>
</html>

การกำหนดจุดสิ้นสุดบรรทัด (Break Rule) 
คำอธิบาย
ใช้ในการกำหนดจุดสิ้นสุดบรรทัด และขึ้นบรรทัดใหม่ คำสั่งนี้เหมือนการกด Enter บน keyboard นั่นเอง 
รูปแบบ
..... <br> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Break Rule Tag </title>
</head>
<body>
Test Normal Message
Test Normal Message
Test Break Rule Tag <br>
Test Break Rule Tag <br>
</body>
</html>

การขึ้นย่อหน้าใหม่ (Paragraph) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงข้อความในลักษณะพารากราฟ หรือย่อหน้าในเว็บเพจ และยังสามารถใช้ในการขึ้นบรรทัดใหม่ครั้งละ 2 บรรทัด 
รูปแบบ
<p> ... </p>
<p align="left/center/right"> ... </p> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Paragraph Tag </title>
</head>
<body>
<p> Test Normal Paragraph Tag
<p align="right"> Test Righ Paragraph Tag
<p align="center"> Test Center Paragraph Tag
<p align="left"> Test Left Paragraph Tag
</body>
</html>

แสดงข้อความแบบจัดกึ่งกลาง (Center) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงข้อความหรือรูปภาพใช้จัดกึ่งกลางเว็บเพจ 
รูปแบบ
<center> ... </center> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Paragraph Tag </title>
</head>
<body>
Test Normal Message
<center> Test Center Message </center>
</body>
</html>


การแสดงเส้นคั่นทางแนวนอน (Horizontal Rule) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงเส้นคั่นแนวนอน โดยใช้ในการแบ่งเนื้อหาหรือคั่นเพื่อความสวยงามและความเป็นระเบียบของเนื้อหา 
รูปแบบ
<hr>
<hr align="left/center/right"> กำหนดตำแหน่งเส้น
<hr width="pixels or %"> กำหนดความยาวเส้น
<hr size="pixels"> กำหนดขนาดเส้น
<hr noshade> กำหนดลักษณะเส้น
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Horizontal Rule Tag </title>
</head>
<body>
<hr>
<hr width="100%">
<hr width="50%">
<hr width="200">
<hr size="3">
<hr size="7">
<hr align="right">
<hr align="center" width="75% size="3">
<hr noshade>
</body>
</html>




การกำหนดรูปแบบตัวอักษร (FONT) 
คำอธิบาย
ใช้กำหนดรูปแบบตัวอักษร ในข้อความที่อยู่ภายใน เช่น ฟอนต์ สี และ ขนาดตัวอักษร 
รูปแบบ
<font face="text"> ..... </font> กำหนดแบบอักษร
<font size="number"> ..... </font> กำหนดขนาดอักษร
<font color="color"> ..... </font> กำหนดสีอักษร
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Font Tag</title>
</head>
<body>
<font size="3"> Font Tag</font> <br>
<font color="blue"> Font Tag</font> <br>
<font face="JasmineUPC"> Font Tag</font> <br>
<font size="5" color="#0000ff"> Font Tag</font> <br>
<font face="AngsanaUPC" color="green"> Font Tag</font> <br>
<font face="CordiaUPC" size="4" color="yellow"> Font Tag</font> <br>
</body>
</html>

การกำหนดข้อความแบบตัวหนา (Bold) 
คำอธิบาย
ใช้กำหนดข้อความที่อยู่ภายใจคำสั่งให่แสดงผลด้วยตัวอักษร ตัวหนา โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อเน้นข้อความในประโยคนั้นๆ 
รูปแบบ
<b>....</b> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Bold Tag</title>
</head>
<body>
<font size="7">
Normal Text <br>
<b> Bold Text</b>
</font>
</body>
</html>

การกำหนดข้อความแบบตัวเอียง (Italic) 
คำอธิบาย
ใช้กำหนดข้อความให้ตัวอักษรเอน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเน้นข้อความนั้นๆ 
รูปแบบ
<i> ... </i> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Italic Tag</title>
</head>
<body>
<font size="7">
Normal Text <br>
<i> ItalicText</i>
</font>
</body>
</html>

การกำหนดข้อความขีดเส้นใต้ (Underline) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงความแบบขีดเส้นใต้ เพื้อเน้นข้อความในประโยคนั้นๆ 
รูปแบบ
<u> ... </u> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Underline Tag</title>
</head>
<body>
<font size="7">
Normal Text <br>
<u> Underline Text</u>
</font>
</body>
</html>


การกำหนดข้อความตัวขีดเส้นทับ (Strikeout) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงข้อความแบบมีเส้นขีดฆ่า โดยใช้เมื่อต้องการยกเลิกข้อความที่ไม่ใช้แล้ว โดยคำสั่งนี้สามารถใช้แทนคำสั่ง STRIKE ได้ 
รูปแบบ
<s> .... </s> or <strike> .... </strike> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Strikeout Tag</title>
</head>
<body>
<font size="7">
Normal Text <br>
<s> Strikeout Text</s>
</font>
</body>
</html>


การกำหนดหัวข้อเรื่อง


การแสดงรายการแบบไม่มีเลขลำดับ (Unorder List) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงรายการข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ โดยไม่มีเลขลำดับ จะมีสัญลักษณ์นำหน้าข้อมูลแต่ละหัวข้อแทน โดยใช้คำสั่ง <LI> ในการสร้างหัวข้อแต่ละหลายรายการ 
รูปแบบ
<ul> ข้อความส่วนหัว
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
</ul> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Unnorder List Tag</title>
</head>
<body>
<ul> Unnorder List
<li> First Item
<li> Second Item
<li> Third Item
</ul>
</body>
</html>

การแสดงรายการแบบไดเรคทอรี่ (DIRectory) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ ที่มีความยาวไม่เกิน 20 ตัวอักษรต่อ 1 รายการ และใช้กับคำสั่ง <LI> เพื่อใช้แสดงแถวรายการ 
รูปแบบ
<dir> ข้อความส่วนหัว
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
</dir> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Directory Tag</title>
</head>
<body>
<b>HARDWARE</b>
<dir>
<li>ROM
<li>RAM
<li>CD-ROM
<li>HardDisk
</dir>
</body>
</html>

การแสดงรายการแบบเมนูลิสต์ (MENU) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงรายการข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ ที่ไม่ซับซ้อน มีลักษณะคล้ายกับคำสั่ง <UL> แต่มีซับซ้อนน้อยกว่า ใช้คำสั่ง <LI> เช่นเดียวกับคำสั่งอื่นๆ 
รูปแบบ
<menu> ข้อความส่วนหัว
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
</menu> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Menu Tag</title>
</head>
<body>
<u>Software</u>
<menu>
<li>Word
<li>Excel
<li>PowerPoint
<li>Access
</menu>
</body>
</html>

การแสดงรายการแบบใช้ตัวเลข (Order List) 
คำอธิบาย
การแสดงรายการแบบแจกแจงเป็นข้อๆ โดยใช้หมายเลขกำกับในการเรียงลำดับ โดยสร้างรายการจากคำสั่ง <LI> และยังสามารถกำหนดรูปแบบของหมายเลขกำกับได้ด้วยให้เป็นเลขอารบิก, เลขโรมัน หรือตัวอักษร 
รูปแบบ
<ol type="1 / a / A / i / I" start="number"> ข้อความส่วนหัว
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
</ol> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Order List Tag</title>
</head>
<body>
<h1>Order List</h1>
<ol>
<li>Item One<li>Item Two<li>Item Three
</ol>
<ol type="A" start="5">
<li>Item Four<li>Item Five
<ol type="i">
<li>Item Six<li>Item Seven
</ol></ol>
</body>
</html>


การแสดงรายการโดยกำหนดหัวข้อ (Definition List) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงรายการแบบให้คำนิยาม โดยแบ่งองค์ประกอบเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่บนคือหัวข้อ (Definition Term) โดยใช้คำสั่ง <DT> ส่วนที่อยู่ล่างคือ คำอธิบาย (Definition Description) ใช้คำสั่ง <DD> โดยหากจะให้ ส่วนหัวข้ออยู่ทางซ้าย แล้วคำอธิบายอยู่ทางขวาก็ให้ใช้ attribute COMPACT ในกรณีที่รายการเป็นข้อความสั้นๆ 
รูปแบบ
<dl> ข้อความส่วนหัว
<dt> หัวข้อ <dd> คำอธิบาย
<dt> หัวข้อ <dd> คำอธิบาย
<dt> หัวข้อ <dd> คำอธิบาย
</ol> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title>Definition Tag</title>
</head>
<body>
<h1> Definition List</h1>
<dl>
<dt>com<dd>องค์การเอกชน (Commercial Organization)
<dt>edu<dd>สถาบันการศึกษา (Education Organization)
<dt>net<dd>องค์กรให้บริการเคลือข่าย (Network Organization)
</dl>
<p>
<dl compact>
<dt>org<dd>องค์กรไม่แสวงผลกำไร (Non-Commercial Organization)
<dt>gov<dd>องค์การของรัฐ (Government Organization)
<dt>mil<dd>องค์กรทางทหราร (Millitary Organization)
</dl>
</body>
</html>






การสร้างตาราง (TABLE) 
คำอธิบาย
ใช้ในการสร้างตารางข้อมูล โดยจะมีคำสั่งที่ใช้ร่วมกันคือ คำสั่ง <TR> ในการสร้างแถวเซลล์ข้อมูล, คำสั่ง <TD> ในการสร้างเซลล์ข้อมูล, คำสั่ง <TH> ในการสร้างหัวตาราง 
รูปแบบ
<table> .... </table>
<table bgcolor="color"> .... </table> กำหนดสีพื้นในตาราง
<table border="pixels"> .... </table> กำหนดขนาดของขอบตาราง
<table width="pixels/%"> .... </table> กำหนดความกว้างของตาราง
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Table Tags </title>
</head>
<body>
<table>
<tr>
<th>หัวข้อ</th>
<th>หัวข้อ</th>
<th>หัวข้อ</th>
</tr>
<tr>
<td>ข้อมูล</td>
<td>ข้อมูล</td>
<td>ข้อมูล</td>
</tr>
<tr>
<td>ข้อมูล</td>
<td>ข้อมูล</td>
<td>ข้อมูล</td>
</tr>
</table>
</body>
</html>


การกำหนดข้อความกำกับตาราง (table CAPTION) 
คำอธิบาย
ใช้แสดงคำอธิบาย หรือ ข้อความประกอบตารางไว้บนส่วนบนหรือส่วนล่างของตารางข้อมูล 
รูปแบบ
<caption align=" top | bottom | left | right "> กำหนดตำแหน่งของคำอธิบายตาราง 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Table Tags </title>
</head>
<body>
<table border>
<caption align="bottom">ตารางรายรับรายจ่ายประจำเดือน</caption>
<tr>
<th>เดือน</th>
<th>มกราคม</th>
<th>กุมภาพันธ์</th>
<th>มีนาคม</th>
</tr>
<tr>
<td>รายรับ</td>
<td>25000</td>
<td>23000</td>
<td>24500</td>
</tr>
<tr>
<td>รายจ่าย</td>
<td>21000</td>
<td>22500</td>
<td>23100</td>
</tr>
</table>
</body>
</html>


การสร้างแถวของตาราง (Table Row) 
คำอธิบาย
เป็นการสร้าง แถวเซล์ข้อมูล เพื่อไว้สร้าง เซล์ข้อมูล และ การสร้างหัวเรื่องของตาราง 
รูปแบบ
<tr align=" left | center | right "> .... </tr> กำหนดตำแหน่งของข้อความ 
<tr bgcolor="color"> .... </tr> กำหนดสีของพื้นหลังในตาราง 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Table Tags </title>
</head>
<body>
<table border>
<tr align="center" bgcolor="green">
<th>สินค้า</th>
<th>โทรทัศน์</th>
<th>วิทยุ</th>
<th>ตู้เย็น</th>
</tr>
<tr align="right" bgcolor="orange">
<td>ราคา</td>
<td>7000</td>
<td>1750</td>
<td>9500</td>
</tr>
</table>
</body>
</html>



การสร้างหัวเรื่องของตาราง (Table Heading) 
คำอธิบาย
เป็นการสร้างเซลล์ หัวตาราง ซึ่งทำหน้าที่กำกับเซล์ข้อมูลในแนวคอลัมน์ที่กำหนด 
รูปแบบ
<th align="left | right | center | justify | char"> .... </th> กำหนดตำแหน่งของข้อความในตารางตามแนวนอน 
<th valign="top | middle | bottom | baseline"> .... </th> กำหนดตำแหน่งของข้อความในตารางตามแนวตั้ง 
<th bgcolor="color"> .... </th> กำหนดสีพื้นของตาราง
<th height="pixels | %"> .... </th> กำหนดความสูงของตาราง 
<th width="pixels | %"> .... </th> กำหนดความกว้างของตาราง 
<th rowspan="number"> .... </th> กำหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวตั้ง 
<th colspan="number"> .... </th> กำหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวนอน 
การสร้างเซลล์ข้อมูล (Table Data) 
คำอธิบาย
ใช้สร้างเซลล์ข้อมูลเพื่อใช้ในการแสดงข้อมูลรายละเอียดต่างๆของเอกสาร 
รูปแบบ
<td align="left | right | center | justify | char"> .... </td> กำหนดตำแหน่งของข้อความในตารางตามแนวนอน 
<th valign="top | middle | bottom | baseline"> .... </td> กำหนดตำแหน่งของข้อความในตารางตามแนวตั้ง 
<td bgcolor="color"> .... </td> กำหนดสีพื้นของตาราง
<td height="pixels | %"> .... </td> กำหนดความสูงของตาราง 
<td width="pixels | %"> .... </td> กำหนดความกว้างของตาราง 
<td rowspan="number"> .... </td> กำหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวตั้ง 
<td colspan="number"> .... </td> กำหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวนอน 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Table Tags </title>
</head>
<body>
<table border>
<tr>
<th colspan="2" bgcolor="#ffffe0">CPU</th>
<th colspan="2">RAM</th>
</tr>
<tr>
<td rowspan="2">Mhz</td>
<td>450</td>
<td>500</td>
<td>550</td>
</tr>
<tr>
<td>600</td>
<td>700</td>
<td>750</td>
</tr>
</table>
</body>
</html>





การใส่รูปภาพลงไปในเอกสาร (IMaGe) 
คำอธิบาย
ใช้ในการแสดงรูปภาพกราฟฟิก โดยจะต้องเป็นไฟล์กราฟฟิกที่เว็บบราวเซอร์รู้จัก เช่น GIF,JPEG,XPM,XBM เป็นต้น 
รูปแบบ
<img src="url"> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body>
<img src="love.jpg">
</body>
</html>
รูปแบบ (ต่อ)
<img align="top | middle | bottom | left | right"> การกำหนดตำแหน่งให้กับรูปภาพ 
<img width="pixels"> การกำหนดความกว้างรูปภาพ 
<img height="pixels"> การกำหนดความสูงรูปภาพ 
<img border="number"> การกำหนดความสูงรูปภาพ 
<img hspace="number"> การกำหนดช่องว่างแนวนอนระหว่างรูปภาพกับข้อความ 
<img vspace="number"> การกำหนดช่องว่างแนวตั้งระหว่างรูปภาพกับข้อความ 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body>
<img src="love.jpg" width="100" height="80">
<p><p>
<img src="love.jpg" align="top" hspace="2">TEST IMAGE TAG
</body>
</html>


การทำพื้นฉากหลัง (body BACKGROUND) 
คำอธิบาย
การนำรูปภาพนำมาทำเป็น วอลเปเปอร์ 
รูปแบบ
<body background="url"> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body background="love.jpg">
<h1>TEST Wallpaper</h1>
</body>
</html>





การสร้างจุดเชื่อมโยง (A) 
คำอธิบาย
ทำหน้าที่กำหนดข้อความหรือภาพกราฟฟิกที่อยู่ภายในให้ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น หรือข้อมูลชนิดต่างๆ 
รูปแบบ
<a href="url"> .... </a> 
ตัวอย่าง
<html><head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body>
<a href="page06c.html">Click Here</a><br>
<a href="love.jpg"><img src="love.jpg"></a>
</body>
</html>


การกำหนดสีให้จุดเชื่อมโยง 
คำอธิบาย
เป็นการกำหนดสีอักษรที่จุดเชื่อมโยง โดย


  • link คือสีจุดเชื่อมโยงที่ยังไม่ได้ทำการคลิ๊กเป้าหมาย
  • vlink คือสีจุดเชื่อมโยงที่ไปยังเป้าหมายแล้ว
  • alink คือสีจุดเชื่อมโยงที่ไปอยู่ขณะนั้น
  • นอกจากนี้ยังมี 
  • text สีตัวหนังสือธรรมดา
  • bgcolor คือสีพื้นหลังของเอกสาร 
  • รูปแบบ
    <body tag="color"> 
    ตัวอย่าง
    <html><head>
    <title> Image Tags</title>
    </head>
    <body bgcolor="black" text="write" link="yellow" vlink="lime" alink="aqua">
    <a href="page06c.html">Click Here</a>
    <a href="page06d.html">Click Here</a>
    </body>
    </html>